วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คำสั่ง คสช. ที่ 21 - 30 /2557

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2557 (เฉพาะ)
เรื่อง  การกำหนดอัตรากำลังพลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพิ่มเติม
          ตามที่ได้มีการกำหนดอัตรากำลังพลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ไปแล้วนั้น
          เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของ คสช. ตามคำสั่งดังกล่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงกำหนดปรับอัตรากำลังพล ของ คสช. ดังนี้
          ๑. คณะที่ปรึกษา และประสานงานด้านความมั่นคง อัตรากำลังพล จากเดิม จำนวน ๒๕ นาย เป็น จำนวน ๓๐ นาย
          ๒. ให้เพิ่มอัตราที่ปรึกษาให้กับฝ่ายต่าง ๆ และส่วนงานขึ้นตรง หน.คสช. หน่วยละ ๑๐ นาย รวม ๖๐ นาย
          ๓. อัตรากำลังพลของ คสช. ภายหลังจากการปรับอัตรากำลังพล ตาม ข้อ ๑ ๒ รวมทั้งสิ้น ๖๙,๒๘๘ นาย
          ทั้งนี้  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
          สั่ง ณ วันที่   ๒๖   พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
          รับคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  พลเอก อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2557
เรื่อง  แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
           ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่  ๒๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่องการจัดส่วนงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แล้วนั้น
           
เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามประกาศฉบับดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้
           
๑. พลเอก ประวิตร   วงษ์สุวรรณ              ประธาน
           
๒. พลเอก อนุพงษ์   เผ่าจินดา                รองประธาน
           
๓. หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร  เทวกุล          รองประธาน
          
  ๔. นายสมคิด        จาตุศรีพิทักษ์           ที่ปรึกษา
          
  ๕. นายณรงค์ชัย      อัครเศรณี              ที่ปรึกษา
          
  ๖. นายวิษณุ          เครืองาม               ที่ปรึกษา
           
๗. นายยงยุทธ       ยุทธวงศ์                ที่ปรึกษา
            
๘. พลอากาศเอก  อิทธพร   ศุภวงศ์          ที่ปรึกษา
            
๙. พลเอก นพดล     อินทปัญญา            ที่ปรึกษา
             
๑๐. พลเอก ดาว์พงษ์    รัตนสุวรรณ         ที่ปรึกษาและเลขานุการ
             
ให้คณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
              (
๑) ให้ข้อเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามเรื่องที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
             (
๒) ให้ความเห็นตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติขอคำปรึกษา
             (
๓) แต่งตั้งคณะบุคคลทำหน้าที่คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสม
             (
๔) การเสนอเรื่องใด ๆ ต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งาชาติ ให้เสนอผ่านประธานที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
             
ทั้งนี้  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
              สั่ง  วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗



คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 23/2557
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
            เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
            1. นายแดง แซ่เฮง
            2. นายมาลัยรักษ์ ทองชัย
                     ฯลฯ
            สั่ง ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
 
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๕๗
เรื่อง ห้ามให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย
            เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย รวมทั้งเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคมและผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม จึงให้ดำเนินการดังนี้
            ๑. ให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการและความเข้มข้นในการกำกับดูแลมิให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฏหมายทุกประเภทในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะบ่อนการพนัน ตู้ม้า สลากกินรวบ ฯลฯ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
            ๒. กรณีที่มีการปล่อยปะละเลย และ/หรือ มีข้าราชการผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบให้มีการเล่นการพนันผิดกฏหมายในพื้นที่รับผิดชอบ จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและคดีอาญาจนถึงที่สุด
            ๓. ให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการปฏิบัติงานประจำวัน ตามข้อ ๑ ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่อง
            ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
            สั่ง ณ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๕/๒๕๕๗
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
            เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๑.๐๐ ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
            ๑. จ่าสิบตำรวจ มานัส เติมธนะศักดิ์
            ๒. พันตำรวจโท สันทนะ ประยูรรัตน์
                           ฯลฯ  
            สั่ง ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
     
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๖/๒๕๕๗
เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
             ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ ๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และคำสั่งที่ ๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม นั้น เนื่องจากปรากฎว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางราย ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการหรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้
             ข้อ ๑ ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน่าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
                      ๑. นายสมบัติ บุญงามอนงค์
                      ๒. จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ
             ข้อ ๒ ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ ๑ แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
             ข้อ ๓ การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตามข้อ ๑ ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ ๑ ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
             ข้อ ๔ ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
             สั่ง ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๗/๒๕๕๗
เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
              เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
              ๑. ให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
              ๒. ให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
              ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
              สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
 
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๘/๒๕๕๗
เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
              เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
              ๑. ให้ นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
              ๒. ให้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
              ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
              สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
     
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๙/๒๕๕๗
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
             เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ มารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๐.๓๐ น.
             สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
     
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 30/2557
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
             เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 น.ถึง 12.00 น. ดังนี้
             1. น.ส.อภิรดี สุพรรณ
             2. นายประเสริฐ ทองนุ่น
                        ฯลฯ
             สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
     
                    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
            หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ